เมนู

และถูกต้องวิโมกข์อันสงบ ไม่มีรูป เพราะล่วงรูปเสียได้ ด้วย
นามกาย ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้า
ถึงอยู่ เมื่อนั้น เธอชื่อว่าเป็นผู้บริบูรณ์ด้วยองค์นั้น ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 8 ประการนี้แล เป็นผู้ให้ก่อเกิด
ความเลื่อมใสโดยรอบ และบริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง.
จบ ทุติยปฏิปทาสูตรที่ 2

อรรถกถาทุติยปฏิปทาสูตรที่ 2


ทุติยปฏิปทาสูตรที่ 2

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้:-
บทว่า สนฺตา ความว่า ชื่อว่าสงบ เพราะสงบจากธรรม
อันเป็นข้าศึก. บทว่า วิโมกฺขา ความว่า และชื่อว่าวิโมกข์ เพราะ
หลุดพ้นจากธรรมอันเป็นข้าศึก.
จบ อรรถกถาทุติยปฏิปทาสูตรที่ 2

3. ตติยปฏิปทาสูตร


[170] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ที่พัก
ก่อด้วยอิฐ ชื่อนาทิกะ ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียก
ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มี-
พระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
มรณสติอันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลมาก มี
อานิสงส์มาก หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นที่สุด เธอทั้งหลายย่อม
เจริญมรณสติหรือหนอ.
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว ภิกษุรูปหนึ่งกราบ
ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ย่อม
เจริญมรณสติ.
พ. ดูก่อนภิกษุ ก็เธอเจริญสมณสติอย่างไร.
ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในการเจริญมรณสติ นี้ ข้าพระองค์
มีความคิดอย่างนี้ว่า โอหนอ เราพึงเป็นอยู่คืนหนึ่งวันหนึ่ง พึงมนสิการ
ถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า เราได้กระทำคำสอนของ
พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นอันมากหนอ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้า-
พระองค์เจริญมรณสติอย่างนี้แล.
ภิกษุแม้อีกรูปหนึ่งกราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนี้ว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ก็เจริญมรณสติ.